10/6/53

คุณอาจรู้ และไม่จำเป็นต้องรู้ในการสอบ TOEIC

TOEIC-10 ข้อที่ควรรู้
10 ข้อที่คุณอาจรู้ และไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ TOEIC

ช่วงที่ผ่านมาผมวุ่นๆ กับการสอบนั่น สอบนี่ เพื่อเรียนให้จบ หนึ่งในนั้นคือการทดสอบภาษาอังกฤษที่เรียกว่า TOEIC ซึ่งทำให้ผมสรุปเป็นประสบการณ์หลังการสอบมาหลายรอบ(แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ที่มหา'ลัย เขาตั้งไว้ซักที) ได้เป็น 10 ข้อทั้งที่คุณๆ หลายคนรู้กันอยู่แล้ว และอาจไม่รู้(และไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ผมสู่รู้ และอยากจะหน้าด้านเล่า)

TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication


แบบทดสอบ TOEIC จัดทำขึ้นโดย Educational Testing Service (ETS) ที่ Princeton, New Jersey สหรัฐอเมริกา (ถึงตรงนี้ถ้าสงสัยอะไรโง่ๆ แบบผมว่า ทำไมมันไม่ย่อว่า TOEFIC-ซึ่งอาจคิดเลยเถิดไปว่าเป็นประเภทของวรรณกรรมแนวใหม่ เกี่ยวกับนิ้วหัวแม่เท้า ที่เรียกว่า TOE Fiction ก็กรุณาอย่าถามผมล่ะครับ เดินทางไปที่ปรินซ์ตันซะ ถามหาคนที่คิดแบบทดสอบนี้โดยพลัน)


เริ่มใช้ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ. 1979 ต่อมาได้นำไปใช้ในประเทศเกาหลี และประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ประเทศเม็กซิโก ประเทศต่าง ๆ ในทวีปอเมริกากลางและยุโรป


ในเมืองไทยการสอบนี้มีประโยชน์ยังไง ลองสมัครงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ ท่านจะรู้เอง หรือลองค้นใน Google คุณจะเห็นสถานที่ติวสอบ TOEIC เยอะมาก และแพงเอาการ อธิบายง่ายๆ คือไม่ว่าคุณจะได้อะไรติดหัวหลังการสอบครั้งนี้หรือไม่ คะแนนที่คุณได้มันเอาไปใช้ได้นั่นแหละ


TOEIC เป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถทางด้าน Passive Skills จึงมีอยู่ 2 ส่วน คือ แบบทดสอบการฟังและการอ่าน แบบทดสอบ TOEIC เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) 200 ข้อ ใช้เวลาสอบ 2 ชั่วโมงเต็ม (เพราะฉะนั้นหากคุณยังพูด หรือ เขียนภาษาอังกฤษห่วยแตกเหมือนผม ก็อย่าหวังว่าสอบแล้วจะไปพูดจีบ นาตาลี เกลโบว่า ได้เหมือนคุณภราดรเสียล่ะ )


ค่าสมัครในการสอบทั้งสิ้น 1,200 บาท ถ้าคุณต้องการให้ส่งผลทางไปรษณีย์ EMS ก็จ่ายเงินเพิ่มให้เขาซะดีๆ (แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องมีคนเซ็นรับอยู่บ้านนะจ๊ะ ไม่ใช่ยกครอบครัวไปเที่ยวดูบ้านนายกที่เขายายเที่ยง และทัวร์ตามหาอดีตนายกแถวลอนดอนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ บุรุษและสตรีไปรษณีย์(เอ๊ะ ! อันหลังมันมีไหม) เขาไม่รอคุณหรอกครับ มันจะตีกลับศูนย์เขาอีกรอบโน่น)


คุณสามารถทำการสอบ TOEIC ที่กรุงเทพฯ ได้ที่อาคาร BB Building ชั้น 19 ถ.อโศก บริเวณใกล้กับตึก GMM


อ้อ! แต่ก่อนไปก็โทร.จองเสียก่อนล่ะครับ เบอร์โทร.คือ 0-2260-7061, 260-7189, 259-8840 (ส่วนใครจะขอเบอร์โทร.เจ้าหน้าที่สาวสวย แนะนำหลังเลิกงานจ้า)


คะแนน TOEIC เริ่มจาก 10 คะแนนถึง 990 คะแนน โดยแบ่งคะแนนการฟังเป็น 5-495 คะแนนและการอ่าน 5-495 คะแนน ซึ่งหากคุณได้คะแนน 990 ก็ไม่ถามนะครับ ภูมิใจซะ แต่คุณได้คะแนน 10 ก็จงภูมิใจอีกเหมือนกันนะครับ ความอัจฉริยะกับความบ้า มันห่างกันนิ้ดส์สสนึงจริงๆ พับเผื่อย


ในประเทศไทยยังมีสถานที่ให้สอบในอีกหลายจังหวัด ซึ่งคุณสามารถดูสถานที่เหล่านั้นได้ที่ เว็บไซต์ทางการ จ้า



10 ข้อที่คุณอาจไม่จำเป็นต้องรู้(แต่อยากเล่า)เกี่ยวกับการสอบ TOEIC



คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียน หรืออะไรให้ยุ่งยาก เขามีของให้คุณพร้อมแล้ว ไม่ต้องเตรียมสิ่งของอะไรไปเลยในการไปสอบครั้งนี้ นอกจาก ตัว และหัวใจ(อ้อ ! อย่าลืมใส่เสื้อผ้าล่ะ )


หากคุณคิดว่า TOEIC ยาก แนะนำให้ไปลองสอบ TOEFL ดูแล้วคุณจะพบว่า แอนดรูว์ บิ๊กก์ โกหก อันที่จริงภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด (แต่ยากฉิบหาย )


การลงทะเบียนก่อนเข้าสอบจะมีข้อปฏิบัติค่อนข้างมาก และเจ้าหน้าที่ก็ทำงานได้มีระเบียบดี แต่หากคุณมองจากข้างนอกจะรู้สึกว่าข้างในห้องนั้นมันวุ่นวายชอบกล


หลังจากดำเนินการต่างๆ เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะพูดข้อปฏิบัติในการเข้าห้องสอบให้ฟัง ซึ่งส่วนใหญ่ด้วยปริมาณคน และข้อจำกัดด้านเวลา คุณจะฟังไม่ทันหรอกครับว่าเขาบอกอะไรบ้าง


ในการสอบที่ตึก BB Building เจ้าหน้าที่จะแนะนำไม่ให้รอที่นอกสถานที่จัดสอบซึ่งจะดูไม่เป็นระเบียบ แต่จะให้ไปรอที่ร้านอาหารที่ชื่อชวนงงว่า ร้านนั้น.(ต้องมีมหัพภาค หรือเครื่องหมายจุดกำกับ) แต่จากประสบการณ์ที่ผมไปสอบมา 3 ครั้ง แทบจะหาคนไปนั่งในร้านนั้น.นั้น ไม่ได้เลย ส่วนใหญ่ก็ยืนอออ่านหนังสือ หรือเล่นหมากเก็บแถวหน้าห้องนั่นแหละ


ระหว่างที่รอ หากคุณคิดว่าว่างจัด ให้เดินไปเทสต์เสียงที่ตึก GMM รอก่อนก็ได้ครับ คุณอาจไม่ได้สอบแต่อาจกลายเป็นศิลปินชั่วข้ามคืน(ว่าเข้านั่น)


อย่าคิดทุจริตให้มากนัก เพราะห้องสอบเล็กเห็นทั่วถึง และเขาจะมีเครื่องมือสแกนวัตถุมาแนบ นาบ ถู ไถ ตัวคุณก่อนเข้าห้องสอบ


ระหว่างที่รอในห้องสอบ ลองเปิดดูคู่มือแนะนำในการกรอกข้อมูลสีฟ้า แล้วคุณจะพบว่าแม้ข้อสอบจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีการตรวจสอบอะไรกระดาษแผ่นนี้เลย เพราะจะมีรอยดินสอขีดเส้นใต้ข้อมูลต่างๆ เปรอะไปหมด บางแผ่นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมีวาดการ์ตูนเลยก็มี(ผมดวงเฮงได้เจอภาพวาดฮาๆ เป็นรูปผู้หญิงกำลังยิ้มทำข้อสอบ แต่พอเปิดมาอีกหน้าเธอทำหน้าเครียด เส้นประสาทตึงเปรี้ยะ


ระหว่างทีทำการสอบ จะมีข้อปฏิบัติอีกหลายอย่างเพื่อให้กรอกข้อมูลในกระดาษคำตอบ จะมีหลายข้อที่เขาให้เว้นว่างเอาไว้จนพาลสงสัยว่าแล้วจะมีข้อพวกนี้มาให้ว่างเล่นๆ ทำไมหว่า ???


หลังการสอบจบลง ขั้นตอนต่อมาคือการไปรับผลสอบ แนะนำให้ไปตรงเวลา เพราะเขาจะเคร่งครัดมาก วันที่พิมพ์อยู่นี้ ไปรับช้าประมาณ 5 นาที เขาไม่ให้รับผลแล้ว ...ซึ่งคุณจะได้พบว่าภายใต้ระเบียบอันเคร่งครัด เจ้าหน้าที่แต่ละท่านท่าจะเครียดจัด หลังเลิกงานเริงร่า ลัลล้า เฮฮา กันน่าดู ถึงขนาดปล่อยมุขอะไรไม่ทราบตอนผมเข้าไป มีฮาจนปรบมือ จนผมอดตกใจไม่ได้ และแน่นอนว่าพวกเขาตกใจที่เห็นผมเข้าไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเสียแล้ว

2 ความคิดเห็น:

  1. เขียนฮาดีนะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ23 พฤษภาคม 2555 เวลา 00:38

    เห็นคะแนนเราเลยปล่อยฮารึเปล่าเอ่ย?

    ตอบลบ